Scholar Guide : ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อ ประเทศนิวซีแลนด์ เรียนนิวซีแลนด์, ศึกษาต่อนิวซีแลนด์, เรียนต่อนิวซีแลนด์,แนะแนวเรียนต่อนิวซีแลนด์                                                  



เป็นการศึกษาภาคบังคับ และเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะของประเทศนิวซีแลนด์แห่งเดียวในโลกที่แยก Year 7 และ Year 8
ออกจาก Primary and Secondary Schools นั่นคือโรงเรียน Intermediate School จะมีเฉพาะชั้น Year 7 และ 8 เท่านั้น
วิชาที่เรียนจะเหมือนประถมศึกษาตอนต้นแต่จะเริ่มมีวิชาภาษาที่สอง มาให้เลือกเรียน เช่น ภาษาญี่ปุ่น ฝรั่งเศส
จีน เยอรมัน มีวิชางานไม้ ตัดเย็บเสื้อผ้า เพศศึกษา การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ยาเสพติด การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็จะเริ่มสอนในช่วงชั้นปีนี้

 




การศึกษาระดับมัธยมศึกษา แบ่งเป็น 5 ชั้น คือ Year 9-13
มีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในนิวซีแลนด์กว่า 400 แห่ง แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

โรงเรียนรัฐบาล
โรงเรียนกึ่งรัฐบาล  ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล  และศาสนา
โรงเรียนเอกชน มักเป็นโรงเรียนของศาสนา

โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นของรัฐบาล โรงเรียนเอกชนมีจำนวนน้อย  และมักจะรักษาประเพณีทาง ศาสนาและปรัชญาเฉพาะของตนไว้  โรงเรียนเอกชนมีเสรีภาพในการศึกษา ให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน แม้โรงเรียนแต่ละแห่งสามารถจัดหลักสูตร
การเรียนการสอนเอง  แต่ต้องได้รับการรับรองคุณภาพ จาก New Zealand Qualification Authority (NZQA) ดังนั้นหลักสูตร และมาตรฐานการศึกษาจึงคล้ายกัน  และมีจุดประสงค์เดียวกัน  คือ เตรียมนักเรียนสอบให้ได้ประกาศนียบัตรระดับมัธยมศึกษา
ที่รัฐบาลกำหนดโรงเรียนมีทั้งแบบประจำและไป – กลับ นักเรียนสวมเครื่องแบบจนถึง YEAR 12 สำหรับ YEAR 13 ไม่มีเครื่องแบบ








โรงเรียนมัธยมฯ แต่ละแห่งรับนักเรียนต่างชาติได้จำนวนไม่เท่ากัน  มักกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
เช่น 10% หรือ 5% ของนักเรียนทั้งโรงเรียน บางแห่งรับน้อยมากปีละ4-5คน นักเรียนต่างชาติเข้าเรียนได้ตั้งแต่ Year 7 นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่จะไปเข้าเรียนต่อใน YEAR 9 นักเรียนไทยที่ไปเรียนต่อมัธยมฯที่ประเทศนิวซีแลนด์  มักเป็นนักเรียน
ที่จบชั้นม. 3 แล้ว  ในการพิจารณาจะให้นักเรียนเข้าเรียนในชั้นใด  โรงเรียนจะพิจารณาจากอายุของนักเรียนเป็นสิ่ง แรก  โดยถือหลักว่าเด็กอายุใกล้เคียงกันควรเรียนชั้นเดียวกัน จากนั้นจะดูผลการเรียนประกอบ ถ้าผลการเรียนไม่เป็นที่พอใจโรงเรียน
อาจแนะนำให้เรียนต่ำลงมา 1 ชั้น ระยะเวลาการสมัคร สมัครได้ตลอดเวลา  เนื่องจากโรงเรียนมักจะรับนักเรียนให้ไปเรียนภาษา
อังกฤษก่อน  และโรงเรียนสามารถแจ้งผลการพิจารณารับนักเรียน หรือไม่ในเวลาอันรวดเร็ว เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร  ได้แก่ ใบรับรองผลการศึกษา หรือใบรายงานผลการศึกษาระดับสูงสุดของนักเรียน

 



นักเรียนระดับ YEAR 9 และ YEAR 10 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนกลาง วิชาพื้นฐานตามหลักสูตรบังคับ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สุขศึกษา พลศึกษา และ เลือกวิชาเลือกดังต่อไปนี้ คือ ศิลปะ ดนตรี ภาษาที่สอง (ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน ลาติน สแปนิช  เทคโนโลยี (งานช่างประเภทต่างๆ คอมพิวเตอร์ )

ใน YEAR 11 นักเรียนจะเริ่มเลือกวิชาเฉพาะตามความถนัด ความชอบของตน  โดยยังคงต้องเรียนวิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์  ภาษาอังกฤษ และ/หรือ วิทยาศาสตร์  ส่วนวิชาเลือกก็มีหลากหลายขึ้น เช่น ภาษาที่สอง คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี (งานช่างประเภทต่างๆ เช่นงานไม้ เหล็ก เครื่องยนต์ ) ศิลปะ ( กราฟฟิคดีไซน์ วาดภาพ งานปั้น การออกแบบเสื้อผ้า ถ่ายภาพ ) สื่อสารมวลชน พื้นฐานด้านกฎหมาย  การบัญชี เศรษฐศาสตร์ ดนตรี พลศึกษาขั้นสูง วิชาการโรงแรม การท่องเที่ยว การทำอาหาร
นักเรียนทุกคนเมื่อจบระดับ Year 11 จะต้องสอบไล่ข้อสอบกลางของประเทศ 

ซึ่งจัดสอบโดยกระทรวงศึกษาธิการเพื่อรับประกาศนียบัตรที่เรียกว่า School Certificate (NCEA Level 1) โดยนักเรียนอาจสอบได้ถึง 6 วิชา นักเรียนที่สอบ School Certificate ได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะเข้าไปเรียนต่อ Year 12

ใน YEAR 12 นักเรียนต้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ  และเลือกวิชาอื่นๆ อีก 4 หรือ 5 วิชา  เป็นวิชาที่จะเป็นพื้นฐานเมื่อเรียนต่อในระดับ
อุดมศึกษา เช่น คณิตศาสตร์ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ เมื่อเรียนจบ Year 12 ต้องสอบไล่ข้อสอบกลางของประเทศ (NCEA  Level 2) นักเรียนที่ผลการเรียนดี และต้องการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย  ก็จะเข้าเรียนต่อ Year 13


YEAR 13 เป็นเหมือนชั้นเตรียมมหาวิทยาลัยในชั้นนี้จะไม่มีวิชาบังคับ นักเรียนเลือกเรียน 4-6 วิชา ซึ่งเป็นวิชาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นพื้นฐาน
กับสาขาที่จะเรียนในระดับอุดมศึกษา เมื่อจบ Year 13 นักเรียนจะได้รับ นักเรียนใน YEAR 11-12-13 ควรเลือกวิชาที่จะเป็นพื้นฐาน
ของการเรียนในระดับปริญญาตรีที่ตนสนใจ เช่น สนใจเรียนปริญญาตรีด้านธุรกิจ ก็ควรเลือกเรียนวิชาคณิตศาสตร์ สถิติ การบัญชี เศรษฐศาสตร์  เป็นต้น  ส่วนนักเรียนที่จะเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ ก็ควรเลือกเรียนวิชา เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา เป็นต้น




ปีการศึกษาแบ่งออกเป็น 4 เทอม โดยระหว่างเทอมจะปิดให้นักเรียนพัก 2 สัปดาห์ กำหนดวันเปิดและปิดเรียนประจำเทอมดังนี้
เทอมที่ 1 ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม-ต้นเดือนเมษายน
เทอมที่ 2 ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนกรกฎาคม
เทอมที่ 3 ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม-กลางหรือปลายเดือนกันยายน
เทอมที่ 4 ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม -ต้นหรือกลางเดือนธันวาคม

โรงเรียนมัธยมฯ ถูกกำหนดให้มีการสอนไม่น้อยกว่า 190 วันต่อปีการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษาทุกแห่งเปิดสอนภาษาอังกฤษ
สำหรับนักเรียนต่างชาติ (ESL) เพื่อเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมก่อนเข้าชั้นเรียนปกติด้วย

ข้อสังเกต การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์นั้นโรงเรียนมีกฎระเบียบเคร่งครัดมาก หากนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือข้อบังคับโรงเรียนได้ เช่น โรงเรียนก็จะไม่รับนักเรียนผู้นั้นให้อยู่ศึกษาต่อและในบางกรณี  จะส่งตัวนักเรียนกลับประเทศไทยทันที

 




ชั้น Year 7 – 10 (ม.1 – ม.4) วิชาส่วนใหญ่เป็นวิชาบังคับทั้งหมด และเรียนเหมือน ๆ กันทุกคน ในชั้น Year 9 -10 (ม.3-4) จะมีวิชาเลือกเพิ่มเข้ามาเพื่อให้นักเรียนได้ทดลองเรียนดูว่าถนัด หรือชอบ หรือไม่ ถ้าชอบก็สามารถเลือกเรียนต่อในระดับสูงต่อไปได้ เช่น ดนตรี  คอมพิวเตอร์  ทำอาหาร  ตัดเย็บ  งานไม้  งานโลหะ  ศิลป  ภาษาต่างชาติ  การแสดง ฯลฯ        

ในชั้น Year 11 (ม.5) นักเรียนจะต้องเริ่มเลือกสาย ( วิทย์ – ศิลป์ ,
ศิลป์ – คณิต)  ประมาณปลายปีของ Year 10 ทางโรงเรียนจะให้นักเรียนเลือกวิชาที่จะเรียนใน Year 11 ไว้ล่วงหน้า ผู้ปกครองควรพูดคุยกับนักเรียน – ดูผลการเรียน – ปรึกษาศูนย์ฯ เพื่อเลือกวิชาก่อนเปิดเทอม Year 11 

นักเรียนที่ต้องการกลับมาเรียนปริญญาตรีในระบบ  International ที่เมืองไทย ต้องเรียนจบ Year 12 โดยมีข้อบังคับว่าต้องเรียนวิชาของชั้น Year 12  ให้ครบอย่างน้อย 5 วิชาและต้องสอบเก็บหน่วยกิตได้ไม่น้อยกว่า 60 หน่วยกิต  จึงสามารถเทียบวุฒิม. 6 ได้ (โปรดดูรายละเอียดหลักเกณฑ์การเทียบวุฒ ม.6 ด้วย) ผู้ปกครองควรปรึกษาศูนย์ฯ และเช็คกับโรงเรียนให้แน่ใจว่าลงวิชาถูกต้องและครบถ้วน ตั้งแต่ปลายปี Year 11   นักเรียนทุกคนควรมีแผนการเรียนถึงระดับปริญญาตรี



นิวซีแลนด์มีโรงเรียนมัธยมศึกษากว่า 400 แห่ง โดยเรียกว่า High School หรือ Grammar School หรือ College หรือ
Area School โรงเรียนมัธยมศึกษาในนิวซีแลนด์เปิดรับนักเรียนต่างชาติตั้งแต่ชั้น Year 7 (ม. 1) ขึ้นไป
โรงเรียนมัธยมมี 3 ประเภทคือ

  • โรงเรียนรัฐบาล (Government School)คือโรงเรียนที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 100 %
  • โรงเรียนกึ่งเอกชน  (Integrated School) คือโรงเรียนที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลบางส่วน
  • โรงเรียนเอกชน  (Independent School) ที่ไม่ได้พึ่งเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเลย

    โรงเรียนเหล่านี้  จะเก็บค่าเล่าเรียนแพงกว่าโรงเรียน 2 ประเภทแรก

ประมาณ 95% เป็นโรงรียนรัฐบาล อีกแค่ 5% เป็นกึ่งเอกชนและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นประเภทใด จะมีมาตรฐานสูงเท่าเทียมกันทั่วประเทศ นอกจากนี้โรงเรียนยังแบ่งเป็น 2 ประเภทย่อย ๆ คือ

  • โรงเรียนประจำ คือนักเรียนสามารถเลือกอยู่หอพักของโรงเรียนได้ถ้าต้องการ
  • โรงเรียนไป – กลับ คือโรงเรียนที่ไม่มีหอพักให้นักเรียนอยู่ แต่โรงเรียนจะหา Homestay (Family)ให้นักเรียนอยู่ และ  Homestay นั้นจะเป็นเหมือนผู้ปกครองที่คอยดูแลความเป็นอยู่ของนักเรียน

    โรงเรียนประจำส่วนใหญ่จะเป็นหญิงล้วนและชายล้วน ส่วนโรงเรียนไป / กลับ ส่วนใหญ่จะเป็นสหศึกษา



โรงเรียนมัธยมฯ แต่ละแห่งรับนักเรียนต่างชาติได้จำนวนไม่เท่ากัน  มักกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด เช่น 10% หรือ 5% ของนักเรียนทั้งโรงเรียน บางแห่งรับน้อยมากปีละ4-5คน นักเรียนต่างชาติเข้าเรียนได้ตั้งแต่ Year 7 นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่
จะไปเข้าเรียนต่อใน YEAR 9 นักเรียนไทยที่ไปเรียนต่อมัธยมฯที่ประเทศนิวซีแลนด์  มักเป็นนักเรียนที่จบชั้นม. 3 แล้ว  ในการพิจารณาจะให้นักเรียนเข้าเรียนในชั้นใด  โรงเรียนจะพิจารณาจากอายุของนักเรียนเป็นสิ่งแรก  โดยถือหลักว่าเด็กอายุใกล้เคียงกัน
ควรเรียนชั้นเดียวกัน จากนั้นจะดูผลการเรียนประกอบ ถ้าผลการเรียนไม่เป็นที่พอใจโรงเรียนอาจแนะนำให้เรียนต่ำลงมา 1 ชั้น
ระยะเวลาการสมัคร สมัครได้ตลอดเวลา  เนื่องจากโรงเรียนมักจะรับนักเรียนให้ไปเรียนภาษา อังกฤษก่อน  และโรงเรียนสามารถแจ้งผล
การพิจารณารับนักเรียน หรือไม่ในเวลาอันรวดเร็ว เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร  ได้แก่ ใบรับรองผลการศึกษา หรือใบรายงานผล
การศึกษาระดับสูงสุดของนักเรียน


นักเรียนระดับ YEAR 9 และ YEAR 10 ถือเป็นชั้นมัธยมศึกษาตอนกลาง วิชาพื้นฐานตามหลักสูตรบังคับ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สุขศึกษา พลศึกษา และ เลือกวิชาเลือกดังต่อไปนี้ คือ ศิลปะ ดนตรี ภาษาที่สอง (ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน ลาติน สแปนิช เทคโนโลยี (งานช่างประเภทต่างๆ คอมพิวเตอร์)

YEAR 11 นักเรียนจะเริ่มเลือกวิชาเฉพาะตามความถนัด ความชอบของตน โดยยังคงต้องเรียนวิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และ/หรือ วิทยาศาสตร์ ส่วนวิชาเลือกก็มีหลากหลายขึ้น เช่น ภาษาที่สอง คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี (งานช่างประเภทต่างๆ เช่นงานไม้ เหล็ก เครื่องยนต์) ศิลปะ (กราฟฟิคดีไซน์ วาดภาพ งานปั้น การออกแบบเสื้อผ้า ถ่ายภาพ) สื่อสารมวลชน พื้นฐานด้านกฎหมาย การบัญชี เศรษฐศาสตร์ ดนตรี พลศึกษาขั้นสูง วิชาการโรงแรม การท่องเที่ยว การทำอาหาร
นักเรียนทุกคนเมื่อจบระดับ Year 11 จะต้องสอบไล่ข้อสอบกลาง
ของประเทศ ซึ่งจัดสอบโดยกระทรวงศึกษาธิการเพื่อรับประกาศนียบัตร
ที่เรียกว่า School Certificate (NCEA Level 1) โดยนักเรียนอาจสอบได้ถึง 6 วิชา นักเรียนที่สอบ School Certificate ได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะเข้าไปเรียนต่อ Year 12

YEAR 12 นักเรียนต้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และเลือกวิชาอื่นๆ อีก 4 หรือ 5 วิชา เป็นวิชาที่จะเป็นพื้นฐานเมื่อเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เช่น คณิตศาสตร์ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ เมื่อเรียนจบ Year 12 ต้องสอบไล่ข้อสอบกลางของประเทศ (NCEA Level 2) นักเรียนที่ผลการเรียนดี และต้องการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ก็จะเข้าเรียนต่อ Year 13

YEAR 13
เป็นเหมือนชั้นเตรียมมหาวิทยาลัยในชั้นนี้จะไม่มีวิชาบังคับ นักเรียนเลือกเรียน 4-6 วิชา ซึ่งเป็นวิชาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นพื้นฐานกับสาขาที่จะเรียนในระดับอุดมศึกษา เมื่อจบ Year 13 นักเรียนจะได้รับ
นักเรียนใน YEAR 11-12-13 ควรเลือกวิชาที่จะเป็นพื้นฐานของการเรียนในระดับปริญญาตรีที่ตนสนใจ เช่น สนใจเรียนปริญญาตรีด้านธุรกิจ ก็ควรเลือกเรียนวิชาคณิตศาสตร์ สถิติ การบัญชี เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ส่วนนักเรียนที่จะเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ ก็ควรเลือกเรียนวิชา เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา เป็นต้น



ใช้ระบบปีละ 4 เทอมสัปดาห์ และระหว่างเทอมจะปิดให้นักเรียนพัก 2 สัปดาห์ การแบ่งเทอมเป็นคร่าวๆประมาณนี้

       เทอม 1          31 มกราคม –15 เมษายน

       เทอม 2           2 พฤษภาคม – 8 กรกฎาคม

       เทอม 3           25 กรกฎาคม – 23 กันยายน

       เทอม 4           10 ตุลาคม – 9 ธันวาคม

 

โรงเรียนมัธยมฯ ถูกกำหนดให้มีการสอนไม่น้อยกว่า 190 วันต่อปีการศึกษา
โรงเรียนมัธยมศึกษาทุกแห่งเปิดสอนภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติ (ESL) เพื่อเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมก่อนเข้าชั้นเรียนปกติด้วย

ข้อสังเกต การศึกษาระดับมัธยมศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์นั้นโรงเรียนมีกฎระเบียบเคร่งครัดมาก  หากนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือข้อบังคับโรงเรียนได้ เช่น โรงเรียนก็จะไม่รับนักเรียนผู้นั้นให้อยู่ศึกษาต่อและในบางกรณี  จะส่งตัวนักเรียนกลับประเทศไทยทันที




Homestay
ข้อดี
ข้อเสีย
  บางคนรู้สึกอบอุ่นกว่า เหมือนอยู่กับครอบครัวสำหรับเด็กที่พูดน้อย
ขี้อาย จะมี Homestay คอยชวนคุยมากกว่า   มีห้องส่วนตัวของ
ตัวเอง มีความเป็นสัดเป็นส่วนกว่า
อาจเข้ากันไม่ได้ – ไม่ถูกชะตา บางครอบครัวเข้มงวดมากไป หรือบางครอบครัวปล่อยตามใจเกินไป เด็กมีเวลาอิสสระเสรีมากเกินไป และอาจใช้เวลาไม่ถูก เช่น ไม่ทำการบ้าน / ไม่อ่านหนังสือ
มีโอกาสใช้เงินสิ้นเปลืองเพราะมีเวลาว่างมาก ก็จะเที่ยว – กิน นอกบ้านมากขึ้น
อาหารอาจไม่ถูกปาก และไม่มีให้เลือกหลากหลาย
บางคนรู้สึกอึดอัด เพราะรู้สึกว่าอยู่บ้านคนอื่น

Boarding
ข้อดี
ข้อเสีย
ทุกคนเป็นเจ้าของบ้านเท่าๆกัน  สบายใจ ไม่อึดอัดเและรู้สึกว่า
อยู่บ้านคนอื่นมีระเบียบ- กฎเกณฑ์ที่ทุกคนต้องปฏิบัติเหมือนกัน สร้างนิสัยที่ดีมีระเบียบสร้างนิสัยในการปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่น
มีครูดูแลใกล้ชิด 24 ช.ม. มีเวลาทำการบ้าน (มีครูอยู่ด้วย) นอน ตื่น เป็นเวลาได้สนิทสนมกับเพื่อนชาว NZ พัฒนาภาษาอังกฤษได้เร็ว
มีกิจกรรม กีฬา หลังเลิกเรียน ทำให้แข็งแรง รูปร่างสูงใหญ่ ไม่เหงา
โอกาสใช้เงินมีน้อย – ประหยัด

สำหรับนักเรียนที่ขี้อาย หรือปรับตัวเข้ากับคนอื่นยากอาจใช้เวลานาน ที่จะมีเพื่อน คนที่ไม่ชอบเล่นกีฬาเลย อาจรู้สึกเบื่อ เพราะนักเรียนส่วนใหญ่เล่นกีฬาหลังเลิก เรียน การรายงานผลการเรียน



โรงเรียนทุกแห่งจะมีการรายงานผลการเรียนต่อผู้ปกครองปีละ 2 ครั้ง คือ สิ้นเทอมที่ 2 และสิ้นเทอมที่ 4  บางโรงเรียนจะมีการรายงาน
อย่างคร่าวๆ  สิ้นเทอม 1 และ 3 ด้วย  แต่อย่างไรก็ตามผู้ปกครองสามารถติดต่อสอบถามเรื่องการเรียนของบุตรธิดาได้ตลอดเวลา
เมื่อมีความสงสัย



Scholar Guide : ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อ ประเทศนิวซีแลนด์ เรียนนิวซีแลนด์, ศึกษาต่อนิวซีแลนด์, เรียนต่อนิวซีแลนด์,แนะแนวเรียนต่อนิวซีแลนด์

กลับสู่หน้าหลักการศึกษา

ซัมเมอร์ คอร์ส

เรียนภาษาและหลักสูตรระยะสั้น


ประถมศึกษา

มัธยมศึกษา


มหาวิทยาลัย

สถาบันเทคโนโลยีและโพลีเทคนิค

การศึกษาทางไกล

นานาคำถามการศึกษา

 

 


Scholar Guide : ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อ ประเทศนิวซีแลนด์ เรียนนิวซีแลนด์, ศึกษาต่อนิวซีแลนด์, เรียนต่อนิวซีแลนด์,แนะแนวเรียนต่อนิวซีแลนด์